วันพฤหัสบดีที่ 28 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2556

CLASH



CLASH

สมาชิก
ชื่อจริง ปรีติ บารมีอนันต์ (แบงค์) 
ตำแหน่ง ร้องนำ
 
วันเกิด 20 ต.ค. 2525 
ราศี ตุลย์ 
การศึกษา คณะศิลปกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยกรุงเทพ 
ประสบการณ์
ทางดนตรี แต่งเนื้อร้อง / ทำนอง 
รางวัลที่เคยได้รับ นักร้องนำยอดเยี่ยม และรองชนะเลิศ
อันดับ 1 Hot Wave Music 
Awards # 3 ปี 2541
ชื่อจริง ธนะพล ฤกษ์สมผุส (พล) 
ตำแหน่ง กีตาร์
 
วันเกิด 2 ม.ค. 2524 
ราศี ธนู 
การศึกษา คณะคอมพิวเตอร์ธุรกิจ มหาวิทยาลัยเอเชียอาคเนย์ 
เครื่องดนตรีที่เล่นได้ ทรัมเปต, กีตาร์ 
รางวัลที่เคยได้รับ รางวัลชนะเลิศถ้วยพระราชทาน พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ในการประกวดโยธวาทิต ชิงแชมป์ประเทศไทย
ชื่อจริง ฐาปนา ณ บางช้าง (แฮ็ค) 
ตำแหน่ง กีตาร์
 
วันเกิด 6 พ.ค. 2524 
ราศี เมษ 
การศึกษา คณะศิลปศาสตร์ เอกดนตรีศึกษาสากล สถาบันราชภัฎบ้านสมเด็จ 
เครื่องดนตรีที่เล่นได้ กลอง, เปียโน, คีย์บอร์ด, กีตาร์ 
รางวัลที่เคยได้รับ รางวัลชนะเลิศถ้วยพระราชทาน พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ในการประกวดโยธวาทิต ชิงแชมป์ประเทศไทย
ชื่อจริง สุกฤษ์ ศรีเปารยะ (สุ่ม) 
ตำแหน่ง เบส
 
วันเกิด 21 ม.ค. 2525 
ราศี มังกร 
การศึกษา คณะดุริยางคศิลป์ มหาวิทยาลัยมหิดล 
เครื่องดนตรีที่เล่นได้ ดับเบิ้ลเบส, ทรอมโบน, เบส 
รางวัลที่เคยได้รับ รางวัลชนะเลิศถ้วยพระราชทาน พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ในการประกวดโยธวาทิต ชิงแชมป์ประเทศไทย
ชื่อจริง อนันต์ ดาบเพ็ชรธิกรณ์ (ยักษ์) 
ตำแหน่ง กลอง
 
วันเกิด 24 ม.ค. 2525 
ราศี มังกร 
การศึกษา คณะมนุษยศาสตร์สื่อสารมวลชน มหาวิทยาลัยรามคำแหง 
เครื่องดนตรีที่เล่นได้ ทูบา, เปียโน, กลอง 
รางวัลที่เคยได้รับ รางวัลชนะเลิศถ้วยพระราชทาน พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ในการประกวดโยธวาทิต ชิงแชมป์ ประเทศไทย, รองชนะเลิศอันดับ 1 Hot Wave Music Awards # 3 ปี 2541 
- + - + - + - + - + - + - + - + - + - + - + - + - + - + - + - + - 
ผลงานอื่น ๆ พรีเซ็นเตอร์โฆษณาน้ำมันเครื่อง 
แนวเพลง ป๊อปร็อค 
สังกัด อัพจี

วงดนตรีร็อคหน้าใหม่และมีสไตล์เป็นของตัวเอง รวมตัวกันครั้งแรก ในชื่อวง LUCIFER เพื่อเข้าประกวด Hot Wave Music Awards ครั้งที่ 2 และ 3 ตั้งแต่สมัยเรียนมัธยมที่ราชวินิต บางแก้ว พร้อมคว้าหลายรางวัลจากการประกวด
หลังจากนั้น พวกเขามีโอกาสทำอัลบั้มแรกกับสังกัด อัพจี ที่ใช้ชื่อว่า o­nE พร้อมเพลง "กอด" เป็นเพลงเปิดตัวของพวกเขา ซึ่งเป็น ฝีมือการแต่ง ทั้งเนื้อร้องและทำนองของ "แบงค์" นักร้องนำ และเรียบเรียงด้วยฝีมือของพวกเขาเองทั้งหมด กับเนื้อหาอบอุ่น จริงใจที่มีต่อใครคนหนึ่ง และกลายเป็นเพลงแจ้งเกิดของพวกเขา ในเวลาต่อมา พร้อมรางวัลจาก "สีสัน อะวอร์ดส์" สาขาเพลงร็อคยอดเยี่ยม จากเพลง "Love Scene" ในปี 2545 เป็นเครื่องการันตี
วันนี้ 5 หนุ่มวงแคลช กลับมาอีกครั้งกับความตั้งใจ ที่จะสร้างทางเลือกใหม่ให้กับวงการดนตรี ด้วยผลงานอันดับที่ 2 "Soundshake" ที่ผ่านการคิดทุกขั้นตอน จากมันสมองของพวกเขา รวมทั้งเรียบเรียงเพลงเอง เพื่อให้ได้ซาวนด์ดนตรีที่มีรายละเอียด ละเมียดละไม บวกกับน้ำสียงและลีลาที่โดดเด่นของ"แบงค์" นักร้องนำ ที่ได้ฝากฝีไม้ลายมือการแต่งเพลงไว้ถึง 7 เพลง
"Soundshake" งานเพลงที่จะมาเขย่าหัวใจคนฟังให้สั่นสะท้าน ด้วยเพลงเปิดตัว "เธอจะอยู่กับฉันตลอดไป" และเพลง "ขอเช็คน้ำตา" ที่ฮิตติดชาร์ท ฮอตติดหูคนฟังไปทั่ว
หลังจากประสบความสำเร็จอย่างมากมาย กับอัลบั้ม "SOUNDSHAKE" พวกเขาโด่งดัง โดดเด่น จนได้ไปเป็นพรีเซ็นเตอร์โฆษณาน้ำมันเครื่องยี่ห้อหนึ่ง แล้วยังได้คลอดอัลบั้มพิเศษ SOUNDCREAM ออกมาเซอร์ไพร์สแฟนเพลงกันต่อ ด้วยเสียงดนตรีแบบอะคูสติกที่ฟังสบายขึ้น พร้อมเพลงพิเศษ "เธอคือนางฟ้าในใจ" ที่หลายคนไม่น่าพลาด
ปี 2546 ด้วยการจับมือกันของจาก 3 ค่ายเพลงร็อค อย่าง มอร์ มิวสิค,จีนี่ เรคคอร์ดส และอัพจี อัลบั้มพิเศษ Little Rock Project จึงเกิดขึ้น จากการรวมกันเฉพาะกิจ ของ 7 วงร็อครุ่นใหม่มาแรง Clash, ABnormal, Paradox, I-zax, Ultra Chuadz, Zeal และกะลา ที่กลับการปลุกกระแสตำนานเพลงร็อคมือขวา"ไมโคร" โดยนำเอา 25 บทเพลงฮิต มาเรียบเรียงและร้องใหม่ ในสไตล์ของแต่ละวง
ที่มา 1.http://guitar.kaidown.com/Artist-History/Clash.aspx



คาร์นิวัล Carnival


ร์นิวั Carnival

          เมื่อเอ่ยถึงเทศกาลนี้ ต้องเป็นที่คุ้นหูของคนทั่วโลก เพราะถือเป็นประเพณีสำคัญของชาวคริสต์
สำหรับระยะเวลาของการจัดงานนั้นแตก ต่างกันไปตามความต้องการของแต่ละท้องถิ่น 
สัญลักษณ์ของงานที่เห็นได้ชัดเจน เหมือน ๆ กัน คือ การแต่งกายแฟนซี สีสรรฉูดฉาด ผู้คนเดิน
กลุ่มเป็นขบวนไปตามท้องถนน ชาวเยอรมันส่วนใหญ่นิยมเรียกชื่อเทศกาลนี้ว่า "Fasching"
ซึ่งคำนี้ถูกใช้กันมาตั้งแต่คริสต ศตวรรษที่ 13 แล้ว




          
การเฉลิม ฉลองอย่างเป็นทางการ เริ่มจากวันที่ 11 พ.ย. ของทุกปี เวลา 11.11 น. แต่ละเมืองจะมีการแห่ขบวนพาเหรด เดินเข้าแถวต่อกันเป็นกลุ่มๆ ระยะเวลาของงานกินเวลานานนับเดือนซึ่งในระหว่างวันที่ 12 พ.ย. ถึง ม.ค. จะมีสีสรรของงานอย่างไรก็ขึ้นอยู่กับเมืองนั้นๆ

           เมืองที่ขึ้นชื่อว่ามีการจัดงานยิ่งใหญ่ มีผู้เข้าร่วมงานนับหมื่น แสนคน ได้แก่ Koeln , Mainz , Dueseldorf ไม่ว่าจะเป็นเด็ก หรือผู้ใหญ่ต่างก็สนุกสนานกับการแต่งกายให้แปลกไปจากชีวิตประจำวัน เด็กๆ ต่างได้แต่งกายไปตามฝัน ตามจินตนาการของตน ที่นิยมของเด็กหญิง คือ การ แต่งเป็นเจ้าหญิง , แม่มด , สัตว์ประเภทต่าง ๆ ส่วนเด็กชายที่เห็นฮิตกันทั่วหน้า คือ โจรสลัด ตามมาด้วย ตำรวจ , พนักงานดับเพลิง , ทหาร สมัยโรมัน ผู้ใหญ่เองก็พลอยสนุกไปด้วย ถือเป็นการปลดปล่อยความเครียด จากการตรากตรำทำงาน มารวมกลุ่มสังสรรค์กัน

ตามปฏิทิน ของเยอรมันมักจะระบุ วันสำคัญก่อนสิ้นสุดงาน Fasching ไว้ดังนี้
Nelkensamstag........ ตรงกับ วันเสาร์ 
Tulpensonntag......... ตรง กับ วันอาทิตย์ 
Rosenmontag ..........ตรงกับ วันจันทร์ 
Fastnachtsdienstag ตรงกับ วันอังคาร 


          ในเวลาเที่ยงคืนของวันอังคารนี้เอง เป็นจุดสิ้นสุดของเทศกาลอย่างแท้จริง (วันพุธต่อมาถูกเรียกว่า Aschermitwoch) หลายๆเมืองมีประเพณีการเผาหุ่นฟางเปรียบเสมือน การอำลา อย่างเป็นทางการ เพื่อมาพบกันใหม่ในปีหน้า
           เทศกาล คาร์นิวัลจัดขึ้นในหลายประเทศแต่ที่มีชื่อเสียงโด่งดัง และดึงดูดใจนักท่องเที่ยวทั่วโลกมากที่สุดคือคาร์นิ วัลของบราซิล(Brazilian Carnival) คาร์นิวัล มาจากภาษา โปรตุเกสว่าCarnaval ปัจจุบันเป็นเทศกาล ประจำปีในประเทศบราซิล ซึ่งสามารถดึงดูดนักท่องเที่ยวจากทั่วโลกให้เดินทางไปเที่ยวประเทศบราซิล เพื่อร่วมเฉลิมฉลองเทศกาลนี้


           เทศกาลคาร์นิวัลจะจัด ก่อนวันสำคัญของชาวคริสต์คือวัน พุธรับเถ้า (AshWednesday) 4วัน ซึ่งเป็นสัญลักษณ์ของการเข้าสู่เทศกาลมหาพรตของชาวคริสต์ นิกายโรมันคาทอลิก(เทศกาลเข้าสู่ธรรมของคริสต์นิกายโปรเตสแตนต์)เทศกาลมหา พรตเป็นช่วงการถืออดอาหาร40วันตามแบบที่พระเยซูเจ้า ทรงวางไว้คือพระองค์ ทรงถืออดพระกระยาหาร40วันก่อนทำพันธกิจการอดอาหาร ช่วงนี้เน้น ที่การพลีกรรมและเพื่ออธิษฐานภาวนา การอดอาหารของชาวคริสต์คาทอลิกจะเน้นที่อดเนื้อส่วนชาวคริสต์โปรเตสแตนต์จะ อดอาหาร ทั้งหมดยกเว้นน้ำส่วนจะอดอาหารทุกมื้อทั้ง40วัน หรืออด บางมื้อในแต่ละวันเพื่ออธิษฐานขึ้นอยู่กับความศรัทธาส่วนบุคคล ดั้งเดิมเทศกาลคาร์นิวัลเป็นการถือปฏิบัติของกลุ่ม Pagan Saturnalia อีก นัยหนึ่งเรา อาจจะตีความหมายว่าเทศกาลคาร์นิวัลคือการ เฉลิมฉลองกล่าวอำลาความสุขสบายฝ่ายเนื้อหนังเทศกาลคาร์นิวัล ของประเทศบราซิลแตกต่างจากคาร์นิวัลประเทศในยุโรปหรือที่อื่นๆในโลกเพราะเทศ กาลคาร์นิวัลของประเทศบราซิลนั้นได้มาจากการต่อสู้ของประชาชนจนรัฐบาลยอมรับ ว่าเป็นส่วนหนึ่งของวัฒนธรรมเหตุที่เป็นเช่นนั้นเพราะเดิมทีการฉลองคาร์นิ วัลมาจากโปรตุเกสเรียกว่า"entrudo"


           นิคาร์นิวัลสมัยใหม่ของบราซิลเกิดขึ้นในปี ค.ศ.1845 ที่เมือง Rio de Janeiro ซึ่งที่เมือง City's bourgeoisieได้นำ การฝึกการโยนบอลและปาตี้ร์จาก ปารีสซึ่งการละเล่นเป็นการล้อเลียนกันในทวีปยุโรป เมื่อสืบสาวการละเล่นนี้ก็มาจากการละเล่นตามวัฒนธรรมของชาว พื้นเมืองอเมริกันและอัฟริกันซึ่งตั้งแต่คริสต์ศตวรรษที่19กลุ่มcordões (literally laces or strings in Portuguese)ถูก แนะนำไปใช้ที่ “ริโอ เดอ จาเนโร”(ประเทศบราซิล) คนกลุ่มนี้จะ เดินพาเหรดไปตามท้องถนนพร้อมทั้งเล่นดนตรีและเต้นรำไปด้วยซึ่งปัจจุบันคือ กลุ่มที่เรียกว่า blocos(blocks)ประกอบ ด้วยกลุ่มคนที่แต่งตัวด้วยชุดประจำชาติ หรือเสื้อยืดที่มีสัญลักษณ์ของ themes เพื่อ เฉลิมฉลองคาร์นิวัล ปกติกลุ่ม Bloจะเป็นกลุ่มของ เพื่อน บ้านหรือคนนอกเขต รวมทั้งกลุ่มที่นำดนตรีเข้ามาร่วมแสดงหรือ พวกนักเดินทางมาร่วมด้วยกลุ่ม"blocos"กลาย เป็นกลุ่มใหญ่ของเทศกาลคาร์นิวัลใน “ริโอ เดอ จาเนโร” ซึ่งมีมากกว่า100"blocos"แล้ว ทุกวันนี้ก็จะเพิ่มมากขึ้นขนาดของแต่ละ"blocos"มีใหญ่บ้างเล็กบ้างทั้งหมดก็ จะรวมกันเป็นสี่เหลี่ยมจัตุรัสแล้ว เดินพาเหรดออกไปสู่ถนนมีบางกลุ่มคงอยู่ที่เดิมเสมอแต่ละกลุ่ม"blocos"ก็ มีถนนหรือถนนที่ต้องออกพาเหรดดังนั้นถ้าเป็นกลุ่มใหญ่มีการปิดถนนกันเลยปก ติแล้วคาร์นิวัลจะเริ่มในเดือนมกราคมจนกระทั่งสิ้นสุดเทศกาล(4วัน ก่อน Ash Wedesday ) masquerade





           กลุ่มคนที่พาเหรดก็จะเต้นจังหวะแซมบ้าตามท้องถนนในช่วงสุดสัปดาห์หรือทุกวันระหว่าง เทศกาล คาร์นิวัลตามปกติ แล้วคนที่จัด"blocos"จะ แต่งดนตรีของตัวเองเพื่อใช้ร้องและเต้นตลอดเวลาของการเดินพาเหรดควบคู่กับ เพลง เก่าๆของคาร์นิวัลโบราณในภาษา โปรตุเกสว่า"Marchihas de carnival "และแซมบ้าซึ่ง กลายเป็น คาสสิกไปแล้วงานเทศกาลรื่นเริง ที่ใหญ่ที่สุดในประเทศบราซิลเริ่มต้นขึ้นแล้วอย่างยิ่งใหญ่อลังการตามหัว เมืองใหญ่ทั่วประเทศเช่นเมืองเซาเปาโลและนคร หลวง ริโอ เดอ จาเนโร ท่ามกลางสีสัน ของขบวนพาเหรดของเหล่าสาวประเภทสองและนักเต้นชาวบราซิลเลียนกว่า4,500ชีวิต ที่ประโคมโหมแต่งกายเลิศหรูฟูบานมาประชันกันในการแสดงและ การเต้นรำหลายแขนงโดยเฉพาะแนวแซมบ้าอย่างสุดมันส์ซึ่งทุกคนล้วนประชันกัน อย่างเต็มที่เสียงกลองกระหึ่มขึ้น พร้อม ๆ กับความสนุกสนานที่ระเบิดขึ้นในงานประจำปีที่ดึงดูดนักท่องเที่ยวได้มากที่ สุดงานหนึ่งหลังจากที่เหล่านักเต้นจากโรงเรียนสอนการเต้นรำต่างๆฝึกซ้อมกัน มาอย่างดี ทั้งปีเพื่อได้มาโชว์ลีลาในงานนี้โดยเฉพาะโดยจะมีคณะกรรมการ ตัดสินให้รางวัลกับทีมที่เต้นรำได้อย่างมีศิลปะอลังการและยอดเยี่ยมเข้าตา มากที่สุดงานคาร์นิวัลระดับประเทศงาน นี้ไม่เป็นเพียงงานที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของชาวบราซิล แต่ยังเป็นงานแข่งขันเต้นรำที่ดุเดือดมากที่สุดอีกด้วยเหล่า สาวประเภทสองเปิดเผยและยอมรับอย่างไม่เขินอายว่า พวกเธอใช้ซิลิโคนในการเสริมอกทำให้สรีระดูมีส่วนโค้งเว้าเพื่อ ให้ชุดที่สวมใส่เดินโชว์ในขบวนพาเหรดนั้นสวยงามและดูดีที่สุดจนทำให้"ซิลิ โคน"กลายมาเป็นสัญลักษณ์และเครื่องประดับประจำ งานคาร์นิวัลของประเทศบราซิลไปแล้ว






           งาน คาร์นิวัลที่ริโอ เดอ จาเนโร ถือเป็นประเพณีว่าจะต้องจัดขึ้นทุกปีมาตั้งแต่ทศวรรษ 1930 อันเป็นช่วงเดียวกับที่แต่ละเขตนำการเต้นรำชุดสวย ๆ และเพลงประกอบเข้ามาเป็นส่วนหนึ่งของขบวนแห่ ครั้นถึงปี 1932 ก็เริ่มมีการประชันขันแข่งกันจนถูกเรียกขานว่า คณะแซมบ้า (escolas de samba) เพลงแซมบ้ามีต้นกำเนิดมาจากดนตรีในแถบแอฟริกาตะวันตกที่มีกลองเสียงทุ้มต่ำ เป็นตัวนำ ในภาคใต้ของบราซิลจะถือว่าดนตรีจังหวะนี้เป็นสัญลักษณ์ของงานคาร์นิวัล 


           เทศกาลคาร์นิวัลในเมืองเวนิส จัดขึ้นเป็นครั้งแรกเมื่อกว่า 1,000 ปีก่อน ในสมัยนั้นเป็นพิธีทางศาสนาของกลุ่มคนนอกรีต แต่ต่อมาได้กลายเป็นงานเทศกาลเพื่อความสนุกสนานเท่านั้น ซึ่งเทศกาลคาร์นิวัลในเมืองเวนิส จะมีขึ้นเป็นเวลา 10 วัน นักท่องเที่ยวจะสวมหน้ากาก แต่งกายย้อนยุค มาร่วมงานเทศกาลคาร์นิวัลในเมืองเวนิสของอิตาลี
คาร์นิวัลเวนิส 2010









ขอขอบคุณรูปภาพและข้อมูลจาก : 
http://www.theology.ac.th/bit/index.php?option=com_content&task=view&id=391&Itemid=2 
http://www.link-pu.com/thai/modules/info/index.php?content=2:27 

วงป๊อปปูลามิวสิค (Popular Music)


วงป๊อปปูลามิวสิค (Popular  Music)


วงป๊อปปูลามิวสิค (Popular  Music) หรือวงดนตรีลีลาศ ใช้บรรเลงตามงานรื่นเริงทั่วไป ประกอบด้วย

เครื่องดนตรีี กลุ่มแซกโซโฟน กลุ่มเครื่องทองเหลือง และ กลุ่มเครื่องประกอบจังหวงปอปปูลามิวสิค ส่วนใหญ่มี  3 ขนาด

1.วงขนาดเล็ก(วง 4x4)  มีเครื่องดนตรี  12 ชิ้น ดังนี้

กลุ่มแซ็ก  ประกอบด้วย  อัลโตแซ็ก 1  คัน เทเนอร์แซ็ก 2  คันบาริโทน แซ็ก 1 คัน

กลุ่มทองเหลือง ประกอบด้วย ทรัมเป็ต 3  คัน ทรอมโบน 1 คัน

กลุ่มจังหวะ ประกอบด้วย  เปียโน 1 หลัง กีตาร์คอร์ด 1 ตัว เบส 1  ตัว กลองชุด  1  ชุด

(วง 4 x 4 หมายถึง ชุดแซก 4 ชุด ทองเหลือง 4 ชุดตามลำดับ ส่วนเครื่องประกอบจังหวะ 4 ละไว้ในฐานที่เข้าใจ)

2.วงขนาดกลาง (5x5)มีเครื่องดนตรี 14 ชิ้น  คือ เพิ่มอัลโตแซ็ก และ ทรอมโบน

3.วงขนาดใหญ่  (5 x 7)  มี 16  ชิ้น  เพิ่ม  ทรัมเป็ตและทรอมโบนอย่างละตัว

วงคอมโบ (Combo  band) หรือสตริงคอมโบ เป็นวงที่เอาเครื่องดนตรีบางส่วนมาจาก  Popular  Music 

อีกทั้งลักษณะของเพลงและสไตล์การเล่นก็เหมือนกัน  จำนวนเครื่องดนตรีส่วนมากอยู่ระหว่างประมาณ  3 –10 ชิ้น เครื่องดนตรีจะมี 

พวกริทึม(Rhythm) และ พวกเครื่องเป่าทั้งลมไม้และเครื่องทองเหลือง  เครื่องดนตรีที่ใช้เป็นหลักคือ  กลองชุด  เบส  เปียโน

หรือมีเครื่องเป่าผสมด้วยจะเป็นเครื่องลมไม้หรือทองเหลืองก็ได้ไม่จำกัดจำนวน แต่รวมแล้วต้องไม่เหมือนกับปอปปูลามิวสิค

วงคอมโบก็เป็น สมอลล์ แบนด์  (small  Band)แบบหนึ่ง ดังนั้นวงนี้จึงเป็นวงที่มีขนาดไม่ใหญ่นัก

จึงเหมาะสำหรับเล่นตามงานรื่นเริงทั่วๆ ไป นอกจากนั้นยังเหมาะสำหรับเพลงประเภทไลท์มิวสิคอีกด้วย

เพลงไทยสากลและเพลงสากลในปัจจุบันที่ใช้วงคอมโบเล่นตามห้องอาหารหรืองานสังสรรค์ต่างๆ ประกอบด้วยเครื่องดนตรี  ดังต่อไปนื้

1.แซ็กโซโฟน 2ทรัมเป็ต 3 ทรอมโบน 4 เปียโนหรือออร์แกน 5 กีตาร์คอร์ด 6 กีตาร์เบส


วงชาร์โด (Shadow)

 วงชาร์โด (Shadow)

 วงชาร์โด (Shadow) เป็นวงดนตรีขนาดเล็ก เริ่มก่อตั้งเมื่อประมาณ  20 ปีมานี่เองในอเมริกา
วงดนตรีประเภทนี้ที่ได้รับความนิยมสูงสุด คือคณะThe Beattle หรือสี่เต่าทอง
เครื่องดนตรีในสมัยแรก  มี 4 ชิ้น  คือ
1. กีตาร์เมโลดี้ (หรือกีตาร์โซโล)
  2. กีตาร์คอร์ด 
3. กีตาร์เบส 
 4. กลองชุด
วงชาโดว์ ในระยะหลังได้นำออร์แกนและพวกเครื่องเป่า เช่น แซกโซโฟน  ทรัมเป็ตทรอมโบนเข้ามาผสม  และบางทีอาจมี ไวโอลินผสมด้วย
 เพลงของพวกนี้ส่วนใหญ่จะเร่าร้อน  ซึ่งได้รับความนิยมมากในหมู่วัยรุ่น  โดยเฉพาะเพลงประเภท  อันเดอร์กราว


วันพุธที่ 27 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2556

วงดนตรีแชมเบอร์

                                     วงดนตรีแชมเบอร์

          การแสดงดนตรีแบบแชมเบอร์ (Chamber Music) เป็นวงดนตรีที่เกิดขึ้นในสมัยโบราณ สมัยนั้นดนตรีมีไว้สำหรับเจ้านายชั้นสูง เป็นวงดนตรีวงเล็ก บรรเลงเป็นกลุ่มตั้งแต่กลุ่มละ 2 คน ไปจนถึง 9 คน ใช้บรรเลงในห้องโถงหรือสถานที่ที่ซึ่งไม่ใหญ่โตมีผู้ฟังไม่มาก บางยุคสมัยก็นิยมแสดงในสวนหย่อม บทเพลงที่ใช้บรรเลง เป็นบทเพลงที่ประพันธ์สั้นๆ ต้องประพันธ์ขึ้นสำหรับวงแชมเบอร์นั้นๆ โดยเฉพาะ เครื่องดนตรีอาจเป็นประเภทเดียวกันหรือต่างประเภทกันก็ได้ ลักษณะสำคัญของดนตรีแบบนี้ คือ ความเด่นชัดของเสียงเครื่องดนตรีในขณะบรรเลง ซึ่งต้องการแสดงเทคนิคและทักษะความสามารถของผู้บรรเลงและการประสานเสียง แต่ละแนวเสียงจะใช้นักดนตรีบรรเลงเพียง 1 คนเท่านั้น คีตกวีเกือบทุกคนจะมีผลงานแต่งเพลงแบบวงแชมเบอร์ ซึ่งการประสมวงดนตรีก็อาจแตกต่างกันออกไป ตามความนิยม ในปัจจุบันเรามักพบเห็นการแสดงดนตรีแบบแชมเบอร์ตามงานต่างๆ เช่น งานแต่งงานหรืองานเลี้ยงสังสรรค์ ซึ่งนิยมบรรเลงเพลงที่ฟังสบายๆ ทั้งเพลงคลาสสิกและเพลงตามสมัยนิยม มีตั้งแต่กลุ่มละ 2 คน ไปจนถึง 9 คน แต่ละกลุ่มมีชื่อเรียกเฉพาะแตกต่างกันตามจำนวนผู้บรรเลงดังนี้

1.1 กลุ่มละ 2 คน เรียกว่า ดูเอต (Duet) หรือ ดูโอ (Duo)

1.2 กลุ่มละ 3 คน เรียกว่า ทรีโอ (Trio)

1.3 กลุ่มละ 4 คน เรียกว่า ควอร์เทต (Quartet)

1.4 กลุ่มละ 5 คน เรียกว่า ควินเทต (Quintet)

1.5 กลุ่มละ 6 คน เรียกว่า เซกเทต (Sextet)

1.6 กลุ่มละ 7 คน เรียกว่า เซพเทต (Septet)

1.7 กลุ่มละ 8 คน เรียกว่า ออคเทต (Octet)
 1.8 กลุ่มละ 9 คน เรียกว่า โนเนต (Nonet)



วงแจ๊ส (Jazz Band)

                                                                  วงแจ๊ส (Jazz Band)

                   วงดนตรีประเภทแจ๊สหรือตระกูลแจ๊สเกิดจากพวกทาสชาวนิโกร เมืองนิวออร์ลีน รัฐโอไฮโอ แถบฝั่งแม่น้ำมิสซิสซิปปีประเทศสหรัฐอเมริกาหลังจากที่พวกเขาเหล่านั้นได้ถูกใช้งานเยี่ยงทาส ชาวผิวดำต้องทำงานหนักและถูกกดขี่ข่มเหงจากชาวผิวขาวอย่างหนัก เมื่อมีเวลาว่างจากการทำงานก็มารวมกลุ่มกันร้องรำทำเพลง ใช้เครื่องดนตรีง่าย ๆ เพื่อให้หายเหน็ดเหนื่อยจากการทำงาน เป็นการผ่อนคลายอารมณ์ จึงเกิดเป็นดนตรีแจ๊สขึ้น ต่อมาได้รับความนิยมไปทั่วโลกและเกิดดนตรีแจ๊สขึ้นในหลายลักษณะ ได้แก่ บลูแจ๊ส (Blue Jazz) นิวออร์ลีนและดิ๊กซี่แลนด์สไตล์ (New Orlean and Dixieland Style) โมเดิ้ลสไตล์ (Modern Style) และป๊อปสไตล์ (Pop Style) เป็นต้น
             วงดนตรีสากลประเภทวงแจ๊ส เป็นวงดนตรีที่ใช้บรรเลงเพื่อความสนุกสนาน ตลอดจนใช้ประกอบการเต้นรำ ลีลาศ รำวง ส่วนบทเพลงที่ใช้บรรเลงมีทั้งบทเพลงประเภทบรรเลงโดยเฉพาะ และบทเพลงร้องทั่ว ๆ ไป เช่น เพลงแจ๊ส เพลงสากล เพลงไทยสากล เพลงไทยลูกทุ่ง เป็นต้น ส่วนเครื่องดนตรีที่ใช้จัดวงแจ๊สประกอบด้วย
                    1.1   เครื่องดนตรีประเภทเครื่องลมไม้ (woodwind instruments) ได้แก่
1)         อีแฟลตอัลโตแซกโซโฟน (Eb Alto Saxophone)   2)   บีแฟลตเทเนอร์แซกโซโฟน (Bb Tenor Saxophone)
3)         อีแฟลตบราริโทนแซกโซโฟน (Eb Baritone Saxophone)  4)    บีแฟลตคลาริเนต (Bb Clarinet)
5)         ฟลุต (Flute)

                    1.2   เครื่องดนตรีประเภทเครื่องโลหะหรือพวกแตร ได้แก่
                             1)  บีแฟลตทรัมเป็ต (Bb Trumpet)
                             2)  สไลด์ทรอมโบน (Slide Trombone)
ทรัมเป็ต (Trumpet)

ทรอมโบน (Trombone)

                    1.3   เครื่องดนตรีประเภทเครื่องคีย์บอร์ด ได้แก่ เปียโน (Piano) หรือ ออร์แกน (Organ)
เปียโน (Piano)                            ออร์แกน (Organ)

                    1.4   เครื่องดนตรีประเภทเครื่องไฟฟ้า ได้แก่ กีตาร์ไฟฟ้า กีตาร์เบสไฟฟ้า เปียโนหรือออร์แกนไฟฟ้า
            กีตาร์ไฟฟ้า (Electric Guitar)        กีตาร์เบสไฟฟ้า (Bass Guitar)

                    1.5   เครื่องดนตรีประเภทเครื่องตีหรือเครื่องประกอบจังหวะ ได้แก่ กลองชุด
            

วงโยธวาทิต

                                                                วงโยธวาทิต

            ประวัติวงโยธวาทิต  ความหมายของวงโยธวาทิต  ตามพจนานุกรมฉบับราชบัณฑิตยสถาน  หมายถึง "วงดนตรีที่บรรเลงโดยทหารซึ่งมาจากคำว่า  โยธ  แปลว่า  ทหาร  รวมกับคำว่า  วาทิต  แปลว่า  ดนตรี
หรือผู้บรรเลงดนตรี  ส่วนในรากศัพท์ภาษาอังกฤษใช้คำว่า  Military  Band  โดยคำว่า  Military หมายถึง
กองทัพ  ส่วนคำว่า  Band  มาจากคำว่า  Banda  (ในภาษาอิตาลี)  ใช้เรียกวงดนตรีประเภทหนึ่งที่ผสมวง
โดยมีเครื่องดนตรีหลัก ๆ  ด้วยกัน  3  กลุ่ม  คือ
            1.  กลุ่มเครื่องเป่าลมไม้  (Woodwind  Instrument)
            2.  กลุ่มเครื่องเป่าทองเหลือง  (Brass  Instrument)
            3.  กลุ่มเครื่องประกอบจังหวะ  (Percussion  Instrument)
            วงโยธวาทิตเป็นวงดนตรีสำหรับทหาร  มีจุดประสงค์ในการใช้งานคือ  การร้องเพลงซอยเท้าเข้าสู่สนามรบของทหาร  บทบรรเลงส่วนใหญ่เป็นเพลงมาร์ช (March)หรือใช้ประกอบการสวนสนามของทหารเพื่อปลุกใจในยามสงครามหรือประกอบพิธีต่าง ๆ ของทหารโดยเฉพาะ  มีผู้บรรเลงจำนวนมาก  มีเครื่องดนตรีประเภททรัมเป็ต (Trumpet) เป็นเดรื่องนำ "แตรทรัมเป็ต" ที่เป็นเครื่องนำขบวนนั้นมีชื่อเรียกแตกต่างกันขึ้นอยู่กับชนกลุ่มใดเรียก  เช่น  แตรงอน , Alphorn , Buisine , Lituus , Slide ,Trumpet หรือทรัมเป็ตที่ใช้ในรัชกาลที่  1  แห่งกรุงรัตนโกสินทร์เรียกว่า  "แตรวิลันดา" เสียงแตรที่เป่าจะเป็นสัญญาณที่ใช้ต่างกันตามโอกาส  เช่น  สัญญาณที่ให้ทหารบุกโจมตี   สัญญาณรวมพล  สัญญาณแจ้งเหตุ  หรือใช้ในกิจกรรมต่าง ๆ เช่น  เพลงเดิน  เพลงรุก  เพลงรบ  เพลงถอย  เป็นต้น
           จากความหมายของวงโยธวาทิตดังกล่าว  สามารถสรุปโดยสังเขปได้ว่า  วงโยธวาทิตหมายถึง
วงดนตรีที่ยืนและ/หรือเดินบรรเลง  รวมทั้งการบรรเลงประกอบการสวนสนาม  การบรรเลงประกอบพิธีและบรรเลงสำหรับการแสดงในที่สาธารณะที่มีผู้ชมและผู้ฟัง.